หุ้นเด่นวันนี้
24 กรกฎาคม 2563 | 13:39
ราคาหุ้น บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE วันนี้เปิดตลาดกระโดดบวกทันที ทำจุดสูงสุดช่วงเช้าไปถึง 4.18 บาทด้วยกัน ก่อนปิดตลาดรอบเช้าไปที่ 4.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ +3.08% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 972.17 % เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
ข่าวดีที่เข้ามาหนุนราคาหุ้นในวันนี้คงหนีไม่พ้นข่าววานนี้ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่หนึ่งใน ACE ด้วยสัดส่วน 22.43% กลับไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตามเดิม
แม้ประเด็นนี้ไม่ควรจะเกี่ยวข้องกับผลประกอบการหรือราคาหุ้น เพราะพล.ต.อ.วิระชัย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหาร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านักลงทุนไทยมักจะให้น้ำหนักเกี่ยวกับความกว้างขวางของผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาหุ้น ACE ก็ร่วงติดฟลอร์มาหนึ่งรอบ เพราะประเด็นพล.ต.อ.วิระชัยถูกย้ายตำแหน่งเช่นกัน
แม้ในไตรมาส 2/63 ACE ยังไม่มีกำลังผลิตใหม่ๆ เข้ามา แต่นักวิเคราะห์มองว่ากำไรสุทธิในไตรมาสนี้จะโตถึง 75.5% YoY ด้วยกัน เพราะอะไร?
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ฟิลลิป ระบุว่า สาเหตุที่กำไรสุทธิของ ACE ในไตรมาส 2/63 จะโตได้ถึง 75.5% YoY เป็นผลมาจากการลดต้นทุนหลายด้าน ทั้งการใช้พนักงานของบริษัทในการซ่อมบำรุงแทนการว่าจ้าง และลดต้นทุนเชื้อเพลิงด้วยนโยบายรับซื้อเศษวัสดุจากเกษตรกรโดยตรงช่วยลดต้นทุนได้ 2.34% ซึ่งรวมๆแล้วจะลดต้นทุนขายในไตรมาสนี้ได้ 5.2% YoY
ซึ่งจะทำให้กำไรขั้นต้นเติบโตถึง 18.5% YoY ดังนั้นหากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน, สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า จะทำให้กำไรสุทธิเติบโตได้ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
ก่อนหน้านี้ ACE เข้าซื้อโรงไฟฟ้า 3 แห่งจาก บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC กำลังผลิต 26.9 MW ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว สามารถรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 3/63 บล.กสิกรไทย ระบุว่า การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ช่วยเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าของ ACE อีก 13%
นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานและต้นทุนการเงินที่ลดลง เนื่องจากต้นทุนของโครงการอยู่ที่ราว 6 - 7% โดยด้าน Effective rate ของ ACE อยู่ที่ 3.99% ในไตรมาส 1/63
จากกำไรไตรมาส 2-3/63 ที่เติบโตค่อนข้างดี จึงประเมินกำไรสุทธิในปีนี้ไว้ที่ 1,037 ล้านบาท โต 27.23% จากปีก่อน ขณะที่บล.ฟิลลิป มองกำไรปีนี้ไว้ถึง 1,583 ล้านบาท โตถึง 94% ด้วยกัน
อย่างไรก็ดีจากการสำรวจกำไสุทธิในปี 64 พบว่านักวิเคราะห์มองไว้ไม่ดีนัก อาจเติบโตเล็กน้อย ถึงติดลบ เพราะอาจไม่มีกำลังผลิตเข้ามาเพิ่มเติม แต่ปี 65 จะเป็นคนละเรื่อง เพราะบริษัทมีแผนจะขยายกำลังผลิตไฟฟ้าที่จ่ายเข้าระบบไม่ต่ำกว่า 411.47 MW หรือเพิ่มขึ้น 100% ทำให้กำไรจะเติบโตขึ้นไปสู่ระดับ 3 พันลบ.นั่นเอง
ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ
RECOMMENDED NEWS
Let's block ads! (Why?)
No comments:
Post a Comment