
ในส่วนของสนามกีฬา ให้เปิดดำเนิน การได้เฉพาะกิจกรรมเพื่อการออกกำลังกายหรือการฝึกซ้อมในประเภทกีฬา ได้แก่ ฟุตบอลฟุตซอล บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล
แต่ต้องไม่เป็นการแข่งขันและมีจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมที่อยู่ในบริเวณสนามกีฬา (ไม่นับรวมผู้เล่น) อีกไม่เกินสิบคน
ก็ต้องบอกว่าถือเป็นข่าวดีของวงการฟุตบอลไทย ที่บรรดาสโมสรและนักเตะทั้งหลายจะกลับมาฝึกซ้อมเพื่อเรียกความฟิตกันได้เสียทีหลังจากที่ต้องรอคอยมานาน
ในขณะเดียวกันสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็เตรียมนำแนวทางของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า” มาปรับใช้ด้วย
ฟีฟ่าได้จัดทำเอกสารที่ชื่อ Covid-19 : Medical considerations for a return to footballing activity เพื่อแจกจ่ายและเป็นข้อมูลให้แก่ชาติสมาชิก
รวมไปถึงแนวทางปฏิบัติ ตั้งแต่การฝึกซ้อม ไปจนถึงการจัดแข่งขันในมุมมองของแพทย์กีฬาฟุตบอล ซึ่งถูกร่างมาจากตัวแทนแพทย์จากทุกสมาพันธ์ฟุตบอลทั่วโลก
โดยคณะกรรมการร่างระเบียบการแข่งขันที่มีการแต่งตั้งขึ้น โดยประกอบด้วยตัวแทนจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ, ไทยลีก, สโมสรสมาชิก, แพทย์ และกระทรวงสาธารณสุข จะนำเอกสารฉบับดังกล่าว มาประยุกต์ใช้
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้มาตรฐานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จากทั้งภายในและนอกประเทศ
เพียงแต่ข้อบังคับบางอย่าง หากทำแล้วเกิดความย้อนแย้งกับบริบทของฟุตบอลไทยก็อย่าไปฝืน!
สำหรับฟุตบอลไทยลีก จะเริ่มกลับมาฟาดแข้งกัน (นัดที่ 5) อีกครั้งในวันที่ 12 ก.ย. ตามประกาศของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถึงตอนนี้มีเวลาอีก 4 เดือนกว่า
น่าจะเพียงพอสำหรับการเรียกความฟิตของนักเตะทุกทีม
อย่างไรก็ตาม อาจมีเสียงเรียกร้องระลอกใหม่ให้ไทยลีกกลับมาแข่งเร็วกว่าเดิมก็เป็นได้ หากรัฐบาลประกาศผ่อนคลายให้กีฬากลับมาแข่งขันกันได้ในการผ่อนปรนเฟส 4 ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนหน้า
หลังจากนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯคงต้องมีแผนรองรับเอาไว้หลายๆแผน
ที่สำคัญต้องมีแผนการคุยกับ “ทรูวิชั่นส์” เกี่ยวกับการถ่ายทอดสดที่ยังเป็นปัญหาอยู่ด้วย
หากปล่อยให้คาราคาซังเยี่ยงนี้ ไม่มีใครสบายใจ
แม้กระทั่งแฟนบอลก็ยังทำตัวไม่ถูก.
ยุบสภา
June 02, 2020 at 05:01AM
https://ift.tt/2yTKEIZ
เรียงหน้าชน : ต้องมีแผน - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2WNXmBW
Home To Blog
No comments:
Post a Comment